loading...
loading...
หลังเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญ “โซมี่” เน็ตไอดอลและพริตตี้เงินล้าน ซิ่งเก๋งบีเอ็มพุ่งชนรถ 9 คันรวดกลางถนนรัชดาฯ มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ภายหลังเจ้าตัวมีอาการเบลอๆ นั่งสวดมนต์บนโรงพักห้วยขวาง ก่อนที่ญาติขอรับตัวไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลราชบุรี อ้างว่ามีอาการป่วยทางจิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอผลตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์จากทางโรงพยาบาล
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.พิชามญธุ์ ม่วงน้อยเจริญ หรือโม อายุ 29 ปี ลูกสาวของนายจักรกฤษณ์ ม่วงน้อยเจริญ อายุ 51 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ หนึ่งในผู้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคุณพ่อได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลปิยะเวท โดยพบว่ามีอาการบาดเจ็บหน้าอกจนฟกช้ำ จากการกระแทกอัดกับพวงมาลัย นอกจากนี้ยังมีบาดแผลแตกที่ปาก โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คุณหมออนุญาตให้คุณพ่อกลับมารักษาตัวที่บ้านได้ ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นทางพ.ร.บ.ของรถยนต์ที่คุณพ่อขับเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบให้ทั้งหมด
โมได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณพ่อเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางมีลูกค้าเรียกให้ไปส่งที่ห้างบิ๊กซีรัชดา แต่ลูกค้ารายดังกล่าวได้ขอลงอย่างกะทันหันโดยยังไม่ถึงที่หมาย จากนั้นคุณพ่อก็ขับรถกลับจนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
“ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางผู้ก่อเหตุเลย โมอยากให้เขาออกมาขอโทษและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับกระแสข่าวที่ออกมาว่าตัวผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการป่วยทางจิต ถ้าหากเป็นจริงโมก็รู้สึกเห็นใจ เพราะคาดว่าสภาพอารมณ์และสภาพจิตใจขณะนั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่า คุณอาจจะไม่รักชีวิตคุณ แต่คนอื่นเค้ารักชีวิตเค้า คุณอาจจะทำอะไรไม่นึกถึงครอบครัวคุณ แต่คนอื่นเค้ารักและนึกถึงครอบครัวเค้าเสมอ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.พิชามญธุ์ ม่วงน้อยเจริญ หรือโม อายุ 29 ปี ลูกสาวของนายจักรกฤษณ์ ม่วงน้อยเจริญ อายุ 51 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ หนึ่งในผู้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคุณพ่อได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลปิยะเวท โดยพบว่ามีอาการบาดเจ็บหน้าอกจนฟกช้ำ จากการกระแทกอัดกับพวงมาลัย นอกจากนี้ยังมีบาดแผลแตกที่ปาก โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คุณหมออนุญาตให้คุณพ่อกลับมารักษาตัวที่บ้านได้ ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นทางพ.ร.บ.ของรถยนต์ที่คุณพ่อขับเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบให้ทั้งหมด
โมได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณพ่อเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางมีลูกค้าเรียกให้ไปส่งที่ห้างบิ๊กซีรัชดา แต่ลูกค้ารายดังกล่าวได้ขอลงอย่างกะทันหันโดยยังไม่ถึงที่หมาย จากนั้นคุณพ่อก็ขับรถกลับจนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว
“ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางผู้ก่อเหตุเลย โมอยากให้เขาออกมาขอโทษและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับกระแสข่าวที่ออกมาว่าตัวผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการป่วยทางจิต ถ้าหากเป็นจริงโมก็รู้สึกเห็นใจ เพราะคาดว่าสภาพอารมณ์และสภาพจิตใจขณะนั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่า คุณอาจจะไม่รักชีวิตคุณ แต่คนอื่นเค้ารักชีวิตเค้า คุณอาจจะทำอะไรไม่นึกถึงครอบครัวคุณ แต่คนอื่นเค้ารักและนึกถึงครอบครัวเค้าเสมอ”
loading...
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking
0 comments:
Post a Comment